ช็อ เด็กหญิงจังหวัดสุรินทร์วัย 13 ปี  เอาเชือกลูกเสือผูกคอดับ 

  เอาเชือกลูกเสือผูกคอดับ  เมื่อวันที่ 3 เดือนกุมภาพันธ์ ปีพ.ศ. 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภหนองจอกจังหวัดสุรินทร์ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านหนองท่ม มีเด็กผูกคอเสียชีวิตภายในห้องนอนของตนเอง  โดยเด็กที่เสียชีวิตนั้นเป็นเด็กผู้หญิงอายุเพียงแค่ 13 ปีเท่านั้นกำลังเรียนอยู่ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง

       เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงก็พบว่าผู้เสียชีวิตใช้เชือกไนลอนสีแดงผูกที่บริเวณคือของตัวบ้านในลักษณะที่ยืนหันหน้าเข้าฝาผนัง   โดยเชือกดังกล่าวนั้นเป็นเชือกที่ผู้เสียชีวิตใช้สำหรับในการเรียนวิชาลูกเสือ   อย่างไรก็ตามทางญาติพี่น้องยังไม่มีใครทราบถึงสาเหตุของการฆ่าตัวตายในครั้งนี้ว่าเด็กหญิงวัย 13 ปีมีปัญหาไม่สบายใจหรือมีปัญหาเรื่องอะไรถึงได้ก่อเหตุฆ่าตัวตาย

       จากคำให้การของตาของผู้เสียชีวิตระบุว่าผู้เสียชีวิตมีพี่น้องอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 คนโดยผู้ตายนั้นเป็นน้องคนสุดท้องอาศัยอยู่กับผู้เป็นตาภายในบ้านหลังดังกล่าวส่วนพ่อกับแม่นั้นไม่ได้อยู่ด้วยเนื่องจากว่าเดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัดนานนานครั้งจึงจะกลับมาหาสักครั้งหนึ่งอย่างไรก็ตามในช่วงของการเกิดเหตุนั้นเป็นช่วงเช้าซึ่งผู้เป็นตาเป็นคนพบศพเป็นคนแรกเนื่องจากว่าได้เข้ามาเรียกหลานสาวให้ไปกินข้าวเพื่อที่จะได้เตรียมตัวไปโรงเรียน

       อย่างไรก็ตามผู้เป็นตาเล่าว่าในตอนแรกที่มีการเรียกนั้นหลานไม่มีการตอบสนองกลับมาซึ่งเป็นตาก็ไม่ได้ติดใจอะไรหลังจากเรียนเสร็จก็ไปทำธุระต่อและกลับมาเรียกใหม่อีกครั้งหนึ่งเนื่องจากว่าเห็นหลานสาวยังไม่ออกมากินข้าวแต่เมื่อเข้าไปดูครั้งที่ 2 ปรากฏว่าหลานสาวนั้นใช้เพื่อผูกคอด้วยความตกใจจึงตะโกนให้เพื่อนบ้านมาช่วยนำศพของหลานสาวลงมาจับคือแต่ปรากฏว่าเด็กหญิงวัย 13 ปีเสียชีวิตก่อนที่จะมีคนมาพบศพแล้ว 

         สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้เชื่อว่าเด็กน่าจะมีปมในใจอะไรที่ไม่สามารถเปิดเผยให้ใครทราบได้ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะต้องสอบปากคำพี่ของพี่ทั้งสองคนของผู้เสียชีวิตรวมถึงอาจจะต้องมีการสอบสวนเพื่อนสนิทของผู้เสียชีวิตถึงจะสามารถทราบสาเหตุของการเสียชีวิตในครั้งนี้ได้ 

         เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานสิ่งแวดล้อมไว้ทั้งหมดแล้วนอกจากนี้ยังมีการนำศพเด็กหญิงวัย 13 ปีส่งโรงพยาบาลเพื่อชันสูตรศพอีกครั้งหนึ่งในขณะเดียวกันก็ประสานงานให้พ่อแม่ของเด็กที่อยู่ต่างจังหวัดเดินทางมาเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมซึ่งถ้าเกิดว่าผลการตรวจสอบแล้วไม่มีเหตุสงสัยอะไรก็จะมีการนำศพให้กับญาติพี่น้องของผู้ตายนำไปประกอบพิธีทางศาสนาได้ 

 

สนับสนุนโดย    gclub ผ่านเว็บ