คำชี้แจงของทางโรงพยาบาล  กรณีสลับตัวผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด จนลูกสาวมาดูใจไม่ทัน 

       คำชี้แจงของทางโรงพยาบาล  จากกรณีที่หญิงสาวคนหนึ่งได้มีการออกมาร้องผ่านสื่อว่าทางโรงพยาบาลปทุมธานีปฏิบัติหน้าที่บกพร่องได้มีการสลับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิช- 19

โดยนำร่างของพ่อของเธอที่เสียชีวิตส่งต่อไปให้กับบุคคลอื่นตั้งแต่เดือนมกราคมจนทำให้เธอและญาติพี่น้องคนอื่นๆไม่มีโอกาสได้ร่ำลาผู้เสียชีวิตและไม่ได้มีโอกาสทำฌาปนกิจศพด้วยตนเอง  

        โดยหญิงสาวรายนี้ระบุว่าเธอมารู้เรื่องเมื่อตอนที่ทางโรงพยาบาลไม่มีการโทรมาตามให้เธอกับญาตินั้นไปดูใจโดยบอกว่าพ่อของเธอนั้นอาการทรุดหนักกำลังจะใกล้ตายแล้วแต่เมื่อไปถึงโรงพยาบาลปรากฏว่าผู้ป่วยที่ป้ายชื่อระบุว่าเป็นชื่อพ่อของเธอนั้นแต่กลับเป็นบุคคลอื่นและเมื่อมีการตรวจสอบก็พบว่าพ่อของเธอนั้นเสียชีวิตไปตั้งแต่ประมาณกลางเดือนมกราคมแล้วแต่ทางโรงพยาบาลได้มีการส่งศพพ่อของเธอไปให้กับญาติของผู้ป่วยรายอื่นซึ่งเป็นผู้ป่วยรายเดียวกับที่นอนอยู่บนเตียงกำลังจะเสียชีวิตอยู่ในตอนนี้เรียกได้ว่าทางโรงพยาบาลนั้นมีการสลับตัวผู้ป่วย 

        อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ทางโรงพยาบาลได้มีการออกมาชี้แจงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับเรื่องของการสลับตัวผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิดเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยทางโรงพยาบาลเล่าว่าทางโรงพยาบาลได้รับผู้ป่วยที่เป็นชายชราจำนวน 2 คนมาพักที่โรงพยาบาลช่วงประมาณวันที่ 16 เดือนมกราคม ปีพ.ศ. 2565 โดยชายชราทั้ง 2 คนเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิดแถมยังเป็นผู้ป่วยติดเตียงทั้งคู่ซึ่งผู้ป่วยทั้งสองคนนั้นไม่สามารถพูดได้และผู้ป่วยทั้งสองคนก็ถูกส่งตัวมารักษาภายในห้องเดียวกัน

          นอกจากนี้ผู้ป่วยทั้งสองคนยังมีเลขที่เตียงติดกันอีกด้วยทำให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลผู้ป่วยนั้นเกิดความสับสนและมีการติดป้ายชื่อ

ผู้ป่วยสลับกันแต่วิธีการรักษาของผู้ป่วยนั้นก็มีการรักษาที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับผู้ป่วยทั้งสองคนว่ามีอาการแบบไหนเพราะผู้ป่วย 1 คนนั้นมีอาการของโรคปอดด้วยโดยทางโรงพยาบาลยืนยันว่าสำหรับการรักษานั้นรักษาอย่างดีที่สุดตามอาการโดยมีการบันทึกวิธีการรักษาต่างๆเอาไว้ตั้งแต่ผู้ป่วยเข้ามาที่โรงพยาบาล 

     จนเมื่อวันที่ 23 เดือนมกราคมปีพศ. 2565 มีผู้ป่วยรายหนึ่งเสียชีวิตเจ้าหน้าที่จึงได้มีการนำศพเข้าไปใส่ถุงซิปล็อคแล้วประสานงานให้ญาติมารับศพไปดำเนินพิธีทางศาสนาซึ่งทางญาติมารับศพไปแล้วก็ไม่ได้มีการเปิดออกดูเนื่องจากเป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิตทำให้ไม่ทราบว่ามีการรับศพมาผิดตัวจึงได้มีการทำพิธีเผาและนำกระดูกไปลอยอังคารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

        อย่างไรก็ตามผู้ป่วยอีกรายนึงซึ่งทางโรงพยาบาลคอยดูแลอาการทรุดหนักจึงได้มีการประสานงานญาติให้มาดูจึงพบว่ามีการจับตัวกันเกิดขึ้นซึ่งทางโรงพยาบาลเองก็ได้มีการขอโทษญาติเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่ยืนยันว่าในระหว่างการรักษานั้นไม่ได้มีการรักษาผิดเนื่องจากว่ารักษาตามสภาพอาการของผู้ป่วยนั้นเอง

 

สนับสนุนโดย  ufabet เว็บหลัก