นักศึกษาแพทย์ ชั้นปี 5 ลูก ผอ.โรงพยาบาลพลัดตกตึกเสียชีวิต

       เมื่อ เวลาประมาณ 11:00 น ของวันที่ 15 เดือนธันวาคม ปี พ.ศ 2566 ที่จังหวัดสุรินทร์    เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนพลัดตกจากตึกภายในโรงพยาบาลสุรินทร์โดยอาคารที่เกิดเหตุนั้นเป็นอาคารที่มีความสูง 7 ชั้นชื่อว่าอาคารศูนย์แพทย์ศาสตร์ศึกษาชั้นคลินิก 

จากการตรวจสอบข้อมูลพบบ้านนักศึกษาคนดังกล่าวนั้นเป็นนักศึกษาที่กำลังศึกษาวิชาแพทย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีซึ่งปัจจุบันกำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 6นอกจากนี้จากประวัติความเป็นมาของนักศึกษาที่เสียชีวิตนั้นพบว่าเป็นลูกชายของผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์อีกด้วย

 จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าน่าจะเป็นการฆ่าตัวตายเนื่องจากว่ามีการตรวจพบว่านักศึกษาคนดังกล่าวได้มีการเขียนจดหมายเอาไว้โดยในเนื้อหานั้นเป็นการขอโทษพ่อแม่ที่เขาทำให้พ่อแม่ผิดหวัง โดยใจความนั้นระบุว่าเขาได้พยายามทำจนถูกความสามารถแล้วนอกจากนี้ยังบรรดาเพื่อนๆของนักศึกษาคนดังกล่าวให้ข้อมูลตรงกันว่านักศึกษาที่เสียชีวิตนั้นก่อนที่จะจบชีวิตลงนั้นอยู่ในอาการเครียดค่อนข้างมาก 

จากข้อมูลที่ตรวจสอบพบมาเบื้องต้นพบว่านักศึกษาที่ฆ่าตัวตายนั้นเป็นนักศึกษาที่กำลังเรียนอยู่ในชั้นปีสุดท้ายและขณะนี้ก็กำลังอยู่ระหว่างที่จะขอใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม  ซึ่งบุคคลที่อยู่ในจุดเกิดเหตุได้ให้ข้อมูลว่าขณะที่เจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้านข้างของตัวตึกก็ได้ยินเสียงดังตุ๊บลงมาและเมื่อเจ้าหน้าที่มายังจุดเกิดเหตุก็พบร่างของนักศึกษาชายคนดังกล่าวนอนหายใจ

โดยรินจึงได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วนำไปยังห้องฉุกเฉินแต่ปรากฏว่านักศึกษาแพทย์คนดังกล่าวทนพิษบาดเจ็บไม่ไหวเนื่องจากอาการสาหัสจึงได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา 

ภายหลังจากเกิดเรื่องน่าสลดใจเกิดขึ้นทางโรงพยาบาลสุรินทร์เองก็ได้ออกมาแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเนื่องจากว่านักศึกษาคนดังกล่าว เป็นอีกหนึ่งนักศึกษาที่กำลังจะเรียนจบและจะมาเป็นบุคลากรเพื่อช่วยเหลือโรงพยาบาลและประเทศชาติ

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่นักศึกษาแพทย์กระโดดตึกฆ่าตัวตายเพราะเกิดจากความเครียดนั้นไม่ใช่ใกล้เกิดเพลงเคสนี้เคสแรกแต่มีจำนวนนักศึกษาแพทย์ที่ใกล้จะเรียนจบอีกหลายๆที่ไม่สามารถทนภาวะความเครียดได้และตัดสินใจฆ่าตัวตายดังนั้นหากใครที่กำลังตัดสินใจที่จะเรียนแพทย์ก็ลองตัดสินใจดูอีกครั้งหนึ่งว่าสามารถรับแรงกดดันและภาวะความเครียดได้มากแค่ไหนก่อนที่จะตัดสินใจเลือกเรียนแพทย์ เพื่อไม่ให้เกิดกรณีแบบนี้ขึ้นมาอีก 

อย่างไรก็ตามยังมีหลายคนอีกเป็นจำนวนมากที่ตัดสินใจที่จะโรงเรียนแพทย์และต่อเมื่อเรียนไปแล้วรู้ตัวว่าเรียนไม่ไหวพวกเขาเหล่านั้นก็ตัดสินใจที่จะย้ายไปเรียนสาขาอื่นได้เช่นเดียวกันดังนั้นทุกปัญหามีทางออกเสมอไม่ควรจบปัญหาของตนเองด้วยการฆ่าตัวตาย

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    Telos95